CSR Club สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สำนักงาน ก.ล.ต. และสถาบันไทยพัฒน์ มอบรางวัลรายงานความยั่งยืน ปี 2558
กรุงเทพ, 15 ธันวาคม 2558 – สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และสถาบันไทยพัฒน์ จัดพิธีมอบรางวัลรายงานความยั่งยืน ประจำปี 2558 มีบริษัทส่งรายงานเข้ารับการพิจารณมากถึง 106 บริษัท คณะกรรมการพิจารณารางวัลมีมติเอกฉันท์ให้ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทยรับรางวัลยอดเยี่ยมเป็นปีที่ 3 ส่วนไทยออยล์ บางจากปิโตรเลียม และปตท. รับรางวัลดีเยี่ยม
นายสุรงค์ บูลกุล นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย กล่าวถึงการจัดโครงการประกาศรางวัล รายงานความยั่งยืน ประจำปี 2258 ว่า จากการที่สมาคมฯ ร่วมกับสำนักงาน ก.ล.ต. และสถาบันไทยพัฒน์ จัดการประกวดรายงานความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 เพราะตระหนักว่าธุรกิจต่างๆ ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของ ESG (Environment, Social and Governance) และผู้ลงทุนก็ต้องการข้อมูลการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ เหล่านี้มาประกอบการตัดสินใจในการลงทุน
ในปีนี้ถือว่าโครงการประสบความสำเร็จอย่างมากจากความพยายามผลักดันให้บริษัทต่างๆ ตระหนักและให้ความสำคัญกับเรื่องการเปิดเผยข้อมูล ESG เพราะมีบริษัททั้งในตลาดหลักทรัพย์ฯ และนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดทำรายงานความยั่งยืนเพิ่มมากขึ้น และร่วมส่งรายงานเข้ารับการพิจารณามากถึง 106 บริษัท จากปีที่แล้ว 64 บริษัท นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่าบริษัทไทยได้มีการพัฒนาและยกระดับการเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG มากขึ้น
ผลการพิจารณารางวัลในโครงการปีนี้ มีบริษัทที่ได้รับรางวัลรายงานความยั่งยืน ระดับยอดเยี่ยม (Excellence) จำนวน 1 บริษัท ได้แก่ เอสซีจี ระดับดีเยี่ยม (Best) จำนวน 3 บริษัท ได้แก่ ไทยออยล์ บางจากปิโตรเลียม และ ปตท. ระดับดีเด่น (Outstanding) จำนวน 19 บริษัท อาทิ ธ.กสิกรไทย สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ฯ การไฟฟ้านครหลวง ฯลฯ และในปีนี้ มีบริษัทที่ได้รับรางวัล Recognition จำนวน 9 บริษัท อาทิ ธ.ไทยพาณิชย์ ไมเนอร์กรุ๊ป แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ ฯลฯ
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. ในฐานะองค์กรกำกับดูแลและพัฒนาตลาดทุนไทย ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนของตลาดทุนไทย และให้การสนับสนุนโครงการประกาศรางวัลรายงานความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการดังกล่าวถือเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนมีการทำ CSR ในกระบวนการธุรกิจ หรือ CSR in process ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางที่ ก.ล.ต. มุ่งหวังให้บริษัทจดทะเบียนและบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ผสานเรื่อง CSR เข้าไปในกลยุทธ์องค์กร และเปิดเผยข้อมูลนี้ในรายงานประจำปีและในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทจดทะเบียนไม่มุ่งหวังเพียงสร้างผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจ แต่ยังคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อผู้มีส่วนได้เสีย สังคม และสิ่งแวดล้อม อันจะทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ทำให้ผู้ลงทุนเกิดความเชื่อมั่น เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในระดับภูมิภาคและในระดับสากลต่อไป
ดร.พิพัฒน์ ยอดพฤติการ ผู้อำนวยการสถาบันไทยพัฒน์ กล่าวว่า ภาพรวมในการจัดทำรายงานความยั่งยืนขององค์กรที่เข้าร่วมโครงการในปี 2558 นี้ มีการพัฒนามากขึ้นจากปีก่อน โดยสามารถรายงานเนื้อหาในทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ด้านความสมบูรณ์ ด้านความเชื่อถือได้ และด้านการสื่อสารและการนำเสนอรายงาน ได้ครอบคลุมและชัดเจนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีการใช้กรอบการรายงานสากล GRI ฉบับ G4 เป็นแนวทางและอ้างอิงในการจัดทำรายงานเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ด้วยจำนวนผู้สมัครเข้าร่วมในโครงการที่มากถึง 106 บริษัทในปีนี้ ตอกย้ำถึงการให้ความสำคัญกับการรายงานความยั่งยืนของกิจการที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เป็นแรงกระตุ้นให้องค์กรอื่นๆ ได้เห็นโอกาสในการพัฒนาการรายงาน สำหรับเปิดเผยข้อมูลด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่ครอบคลุมในประเด็นที่มีสาระสำคัญให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
[ข่าวประชาสัมพันธ์]